ไอเดียบ้านสไตล์โรงนา

ไอเดียบ้านสไตล์โรงนา อบอุ่นแสงสวย วิวต้นไม้

ไอเดียบ้านสไตล์โรงนา เวลาที่เราดูซีรีส์ต่างประเทศที่เป็นเมืองหนาวมีหิมะตกขาวโพลนก่อนฤดูใบไม้ผลิจะมาถึงทำให้รู้สึกเหมือนได้สัมผัสกับบรรยากาศความหนาวเย็นไปด้วยกัน หลายคนจึงอดประทับใจกับบ้านในเขตหนาวที่ดูอบอุ่นไม่ได้จนอยากยกมาสร้างไว้ในเมืองไทย

สำหรับบ้านใน โซนยุโรปนั้นในยุคก่อน ๆ จะมีหลังคาจั่ว ตัวบ้านสูง หน้าต่างขนาดเล็กและมีจำนวนน้อย เพื่อรักษาอุณหภูมิภายใน ต่อมาก็ปรับเปลี่ยนตามยุคสมัยกลายเป็นบ้านที่เต็มไป ด้วยกระจกเพื่อรับแสงสว่าง มีส่วนประกอบของงานไม้ มองดูทีไร ก็รู้สึกอุ่นใจในทุกครั้ง บ้านจัดสรร

ท่ามกลางต้นเมเปิลสีแดง และต้นแอสเพน มีกระท่อมไม้ซีดาร์สไตล์ modern barn (หรือจะเรียกว่านอร์ดิกก็ได้) แทรกซ่อนตัวอยู่เงียบๆ ดีไซน์ของบ้านสะท้อนแนวคิด การสร้างพื้นที่ที่เรียบง่าย และเป็นสัดส่วนที่ดี ตั้งแต่หลังคาจั่วจนถึงรูปทรงบ้าน สี่เหลี่ยมผืนผ้าผนังสูง ความลาดชันของหลังคาช่วยเน้นรูปร่างที่สูงโปร่งให้ยิ่งชัดขึ้นชวน ให้สะดุดตาอย่างบอกไม่ถูก โทนสีขาวผสมไม้จากภายนอกยังสะท้อน ถึงการออกแบบภายใน ซึ่งประกอบด้วยเฉดสีธรรมชาติอันนุ่มนวลที่ หลอมรวมเข้ากับ ต้นไม้สูงตระหง่านที่ล้อมรอบ

เมื่อเปิดประตูที่เบี่ยง เอียงหลบมุมมองเข้าสู่ตัวบ้าน เหมือนถูกสาดความอบอุ่นเข้าหัวใจอย่างจัง เป็นการตกแต่งในสไตล์ ที่ถูกใจคนชอบอะไรคลีน ๆ แน่นอน เพราะทีมงานเลือกใช้โทนขาวครีมเป็นหลัก วัสดุและสีไม้ป๊อปล่าร์อ่อนๆ ที่กรุบนเพดานแบบ lean-to ช่วยสร้างพื้นที่ภายในที่สงบและสว่างสดใส อาบไล้ด้วยแสงธรรมชาติ ที่ผ่อนช่องเปิดกรอบไม้ ขนาดต่างๆ รอบบ้าน และเปิดรับความสดชื่น ของภูมิทัศน์โดยรอบได้เต็มที่

ช่องเปิดในแต่ละห้องได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน

เพื่อให้แน่ใจว่าเชื่อมต่อ กับป่าภายนอกได้อย่างที่ต้องการ ในพื้นที่ส่วนกลางถูกกำหนดขนาด และตำแหน่งให้สามารถ มองเห็นทั้งระยะใกล้ๆ และระยะไกล ในช่วงที่ต้องการเชื่อมต่อ กับบริบททอย่างใกล้ชิด หน้าต่างจะขนาดใหญ่มีม้านั่งบิลท์อินยาว กลายเป็นเบย์วินโดว์เหมาะ สำหรับนั่งเล่นชมวิวรับแสงธรรมชาติ ที่แดดไม่แรงมาก ช่องเปิดสูงขึ้นไปเชิญชวนให้มองดูเปลือกไม้ที่เรียบของต้นป็อปลาร์ หรือใบไม้ที่เขียวชอุ่มของต้นเมเปิล มองดูช่องแสงเหล่านี้แล้วให้นึกถึง โพรงในลำต้นของต้นไม้ ที่อยู่ใกล้เคียง

สำหรับฟังก์ชันในชั้นล่าง จะรวมพื้นที่ใช้งานที่มีความ เคลื่อนไหวบ่อยๆ เข้าด้วยกัน ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่น ห้องทานอาหาร และห้องครัว ที่วางเรียงกันแบบไม่มีผนังกั้น ทำให้บ้านดูกว้าง โดยในครัวจะพิเศษกว่าจุดอื่นๆ เพราะตกแต่งให้เด่นชัดขึ้น ด้วยพื้นผิวสีดำเป็นบริเวณกว้าง ที่เคาน์เตอร์ครัวและไอส์แลนด์ เข้ากันได้กับคานเหล็ก สีดำของชั้นบนที่ทำให้ บ้านดูมีมิติทางสายตามากขึ้น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด 

ด้วยระยะห่างจากพื้นถึง เพดานที่ค่อนข้างมาก รวมทั้งการตีฝ้า เพดานตามแนวหลังคาทำให้ บ้านยิ่งดูสูงโปร่ง มีพื้นที่เหลือมากพอที่ จะทำชั้นลอยให้แยกพื้นที่พักผ่อนอย่างสงบ แต่ไม่ถูกตัดขาดจากพื้นที่อื่นๆ ของบ้าน สถาปนิกจึงออกแบบให้เป็นห้องนอน เปิดโล่งมีราวกันตกเหล็กโปร่งๆ สีดำตัดกับผนังสีขาว จากมุมมองตรงเตียงนอน จะมองเห็นวิวภายนอก ทั้งบริเวณลานดินและปลายทิวไม้จากช่องแสง ตำแหน่งต่างๆ ที่จัดวางแบบกระจายตัว บ้านทั้งหลังจึงมีความ สัมพันธ์ระหว่างภายใน และภายนอกกับภายใน

บ้านฟาร์มสไตล์โรงนา หรือโบสถ์ของซีกโลกตะวันตก จะมีผนังสูงหลังคาจั่วมองดูคล้ายโรง บ่มใบยาสูบของบ้านเรา ซึ่งเป็นลักษณะสถาปัตยกรรมที่เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศ ในโซนนั้นๆ หากจะนำมาปรับประยุกต์ ใช้ในบ้านเขตร้อนชื้นอย่างบ้านเรา ต้องคำนึงถึงสิ่งที่สำคัญคือ การดูแลเรื่องความชื้นของผนังบ้าน เพราะกันสาดค่อนข้างสั้น และช่องแสงขนาดใหญ่อาจทำให้บ้านร้อน ต้องเลือกมุมที่ให้แสงคุณภาพดี หรือใช้วัสดุกระจกที่มีคุณสมบัติตัดแสง สะท้อนแสง เป็นต้น phuket property

แบบบ้านสไตล์โรงนา ออกแบบให้ทุกจุดคือด้านหน้า

หากมีงบประมาณน้อย เราจะมีบ้านที่ดีได้ไหม คำตอบคือ ได้แน่นอนหากมีการออกแบบที่ดี และสามารถตอบโจทย์การ ใช้ชีวิตของเจ้าของได้ โดยอาจต้องลดสเป็กวัสดุบางส่วนที่ทดแทนกัน ได้ในราคาที่ถูกกว่าแทน อย่างบ้านหลังนี้ที่สร้างจาก งบประมาณที่จำกัดมาก เป็นบ้านที่เรียบง่ายที่สุด เรียบง่ายพอ ๆ กับโรงนาแต่เปลี่ยน มาเป็นที่อยู่อาศัย เน้นให้ทุกคนสามารถ ใช้งานร่วมกันได้ในทุกพื้นที่ เป็นความเล็กที่บรรจุ ความสุขเอาไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม

บ้าน ที่สามารถเข้าได้ทุกทาง จากความต้องการของเจ้าของ บ้านจึงได้รับการออกแบบด้วยรูปทรง เรียบง่ายหลังคาจั่ว 45 องศาโดยไม่มีรางน้ำฝน เหมือนโรงนาสไตล์ยุโรปที่พบได้ทั่วไปแต่ ลดรายละเอียด และเพิ่มช่องแสงให้สอดรับกับทิศของแสงและลม โดยไม่ได้สร้างให้ด้าน ไหนหน้าหรือด้านหลัง

ทุกด้านของไซต์ถูกออกแบบมาให้เป็นเสมือนหน้าบ้านอย่างเท่าเทียม จัดสวนในพื้นที่บ้าน การตกแต่งผนังมีเพียงคอนกรีตดิบ ๆ กับช่องเปิดขนาดใหญ่มีสี่ช่องขนาด 2.4x2m ซึ่งมีบานหนึ่งช่องแสงแบบติดตายคงที่ ส่วนอีกสามบานเป็นประตูกระจกสามารถเปิดเลื่อนไปมาได้ ทุกด้านสามารถใช้ เป็นทางเข้าได้หมด

ตามประวัติศาสตร์ของ สวีเดนในสมัยก่อนจะ ขาดแคลนไม้ ไม้เป็นสิ่งที่ค่อนข้างหายาก บ้านหลังนี้จึงลองกลับ ไปยึดตามแบบสถาปัตยกรรม ที่ใช้วัสดุแบบเดิม ๆ คือก่อผนังด้วยหิน ฉาบปูนพลาสเตอร์ แต่เปลี่ยนวัสดุที่หาได้ง่ายกว่าในปัจจุบัน เช่น อิฐมวลเบาฉาบคอนกรีต หลังคาหุ้มด้วยแผ่นเหล็ก Aluzink ลูกฟูก ซึ่งการวัดความกว้างความยาวอาคารและช่องเปิดจะถูกกำหนดให้พอดีกับขนาดของ บล็อกอิฐเป็นหลัก เพื่อลดการสูญเสียของวัสดุ

หลังคาจั่วสูงกรุฝ้าตามแนวหลังคา

หลังคามีโครงสร้างที่เรียบง่าย ด้านในของหลังคาหุ้ม ด้วยเหล็กแผ่นชนิดเดียวกับด้านนอก ใช้แทนการกรุฝ้าเพดาน โดยติดตั้งให้เรียงขึ้นตามแนวจั่วหลังคาไม่มีโถงหลังคา บ้านจึงดูโปร่ง และระบายอากาศได้ดี ผนังด้านในบ้านก็ฉาบปูนเช่นกันกับภายนอก ทำให้มีความต่อเนื่อง ระหว่างภายนอกและภายใน phuket property

บ้านที่เข้าถึงกันได้ง่าย เล็กแต่ไม่แคบ พื้นที่ในบ้านเป็นแบบเปิดโล่ง open plan โดยพยายามสร้างสเปซโล่ง ๆ ภายใน เรียงฟังก์ชันการใช้งานอย่างมุมนั่งเล่น มุมทานอาหาร และมีเคาน์เตอร์ครัวปูนเปลือย ปรุงอาหารอยู่ตรงกลาง ทำให้การใช้งานลื่นไหล เมื่อประกอบกับช่องเปิดขนาดใหญ่ ทำให้บ้านดูไม่แคบ ส่วนของผนังห้องที่ แยกเป็นวัดส่วน อย่างเช่น ห้องนอนจะกรุปิดเป็นส่วนตัวขึ้นด้วยไม้อัด ในส่วนของเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งเป็นส่วนใหญ่ประกอบจากวัสดุ ก่อสร้างที่ใช้ซ้ำจากที่เหลือ จึงช่วยประหยัดงบประมาณได้ค่อนข้างมาก

ใช้งานพื้นที่ว่างบนหลังห้อง พื้นที่บนหลังห้องนอน ไม่ได้ปิดเป็นฝ้าทึบ ทำให้เกิดเป็นพื้นที่ว่าง ให้ใช้งานได้อีกเหมือน เป็นห้องใต้หลังคา เป็นสเปซอเนกประสงค์ที่เด็ก ๆ ชอบขึ้นไปนั่งเล่นสนุก ๆ มีบันไดให้ปีนป่ายขึ้นไปได้สะดวก ส่วนนี้จะมี Skylight ดึงแสงจากด้านบนลงมา เพิ่มความสว่างให้บ้านได้อีกทางหนึ่ง

แผ่นเมทัลชีทเป็น วัสดุที่ทำมาจากโลหะ จึงมีคุณสมบัติในการ นำความร้อนได้ดี แต่หลังจากพระอาทิตย์ ตกดินลงไปแล้ว ความร้อนที่กำลัง สะสมภายในบ้านจะถูกคายออก อย่างรวดเร็วเช่นกัน เมื่อใช้รุ่นที่ติดตั้งฟิล์ม หรือฉนวนกันร้อนก็จะช่วยลดการถ่าย เทความร้อนลงมาใต้หลังคาได้มาก บ้านจึงไม้ร้อนอย่างที่คิด สำหรับบ้านที่ต้องการ ประหยัดงบก็สามารถนำมาปรับ ใช้กรุเป็นฝ้าเพดานได้แต่ต้องใช้แบบ ที่ลอนเล็กสันลอนไม่สูง เพื่อให้ยึดติดตั้งง่าย และต้องระวังแสง ที่สะท้อนสายตา

ข้อดีของการนำโรงนามาดัดแปลงเป็นแบบบ้านโมเดิร์น

• เป็นบ้านที่ทำจากวัสดุไม้ จึงทำให้ตัวบ้านเย็น มีความแข็งแรง
• หลังคาทรงจั่วทำให้บ้าน ดูโปร่งมากขึ้น ถ่ายเทอากาศได้ดี
• ผนังอิฐ เฟอร์นิเจอร์ไม้ รวมถึงคานเปิดโล่ง ทำให้ผู้อยู่อาศัยสัมผัสถึงความอบอุ่นในบ้าน

ข้อเสียของการนำโรงนามาดัดแปลงเป็นแบบบ้านโมเดิร์น

• เมื่อวัสดุทั้งหมดเป็นไม้ ดังนั้นจึงควรฉีดปลวก และป้องกันแมลงมากเป็นพิเศษ เพราะอาจทำให้ไม้ผุ สึกกร่อนได้ และนั่นจะนำไปสู่ปัญหาใหญ่ตามมา
• เมื่อทำการต่อเติมเพิ่ม จะเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นวัสดุไม้ ซึ่งมีราคาแพงกว่าปกติ
• ไม่เหมาะกับพื้นที่ราบลุ่ม เสี่ยงต่อการน้ำท่วมอย่างมาก

เรียกได้ว่าเป็น ไอเดียแบบบ้านใหม่ ที่ถูกใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่กำลังต้องการซื้อบ้านหรือสร้างบ้าน และมีเรื่องดีไซน์ เป็นตัวประกอบหลักของ การตัดสินใจ แม้เมืองไทยจะพบเห็นน้อย แต่อาจจะมีบ้างตาม โซนต่างจังหวัด แต่ถึงกระนั้นก็สามารถนำ แนวคิดนี้ไปปรับประยุกต์ ใช้ในการสร้างบ้านในฝันได้ รับรองว่าเก๋ไก๋ ไม่เหมือนใครแน่นอน